เว็บไซต์ขององค์การบริหารส่วนตำบลทรัพย์พระยา มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น กรุณาอ่าน นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
ให้ความยินยอม
×
แชทกับหน่วยงาน
องค์การบริหารส่วนตำบลทรัพย์พระยา
ยินดีให้บริการค่ะ....
เริ่มแชท
arrow_back_ios
กลับหน้าแรก
apps
เมนูหลัก
เมนูทั้งหมด
แสดงเมนูด้านข้าง
เมนูหลัก (Main)
info
แบบประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส 2568
info
การติดตั้งป้ายโฆษณาหรือสิ่งอื่นใดที่รุกล้ำทางสาธารณะ
camera_alt
ภาพกิจกรรม
insert_drive_file
ข่าวประชาสัมพันธ์ ภายในหน่วยงาน
folder
ข่าวประชาสัมพันธ์ ภานนอกหน่วยงาน
chat_bubble
ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง ภายในหน่วยงาน
thumb_up
กระดานสนทนา
ส่วนราชการ
account_box
คณะผู้บริหาร
account_box
สมาชิกสภา
account_box
หัวหน้าส่วนราชการ
account_box
สำนักปลัด
account_box
กองคลัง
account_box
กองช่าง
account_box
กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ข้อมูลหน่วยงาน
check_circle
สภาพเศรษฐกิจ
check_circle
สภาพทั่วไป
check_circle
การคมนาคม สาธารณูปโภค
check_circle
สภาพสังคม
check_circle
วิสัยทัศน์
folder_open
เว็บไซต์กรมส่งเสริม
ข้อมูลข่าวสาร
folder
งบประมาณรายจ่ายประจำปี
insert_drive_file
ข่าวประชาสัมพันธ์ ภายในหน่วยงาน
chat_bubble
ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง ภายในหน่วยงาน
folder
แผนการจัดซื้อจัดจ้างแผนการจัดหาพัสดุ
folder
รายงานผลการปฏิบัติงาน
folder
ข้อมูลข่าวสารกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
today
ส่วนราชการ
account_box
คณะผู้บริหาร
account_box
สมาชิกสภา
account_box
หัวหน้าส่วนราชการ
account_box
สำนักปลัด
account_box
กองคลัง
account_box
กองช่าง
account_box
กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
info
ข้อมูลหน่วยงาน
check_circle
สภาพเศรษฐกิจ
check_circle
สภาพทั่วไป
check_circle
การคมนาคม สาธารณูปโภค
check_circle
สภาพสังคม
check_circle
วิสัยทัศน์
folder_open
เว็บไซต์กรมส่งเสริม
forum
ข้อมูลข่าวสาร
folder
งบประมาณรายจ่ายประจำปี
insert_drive_file
ข่าวประชาสัมพันธ์ ภายในหน่วยงาน
chat_bubble
ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง ภายในหน่วยงาน
folder
แผนการจัดซื้อจัดจ้างแผนการจัดหาพัสดุ
folder
รายงานผลการปฏิบัติงาน
folder
ข้อมูลข่าวสารกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
call
ข้อมูลการติดต่อ
play_arrow
การกู้ยืมเงิน
การกู้ยืมเงิน
การกู้ยืมเงิน ความหมาย การกู้ยืมเงินและสัญญาอย่างหนึ่งซึ่งเกิดจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า “ผู้กู้” มีความต้องการจะใช้เงินแต่ตนเองมีเงินไม่พอหรือมีเงินไปขอกู้ยืมจากบุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า “ผู้ให้กู้” และผู้กู้ตกลงจะใช้คืนภายในกำหนดเวลาใดเวลาหนึ่งการกู้ยืมจะมีผลสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อมีการส่งมอบเงินที่ยืมให้แก่ผู้ที่ยืมในการกู้ยืมนี้ ผู้ให้กู้จะคิดดอกเบี้ยหรือไม่ก็ได้ ตัวอย่าง นายดำ ต้องการซื้อรถราคา 150,000 บาทแต่นายดำไม่มีเงิน นายดำจึงไปขอยืมเงินจากนายแดง โดยตกลงจะใช้คืนภายใน 1 ปีนับตั้งแต่วันที่กู้ยืม ดังนั้นเมื่อครบกำหนด 1 ปีแล้ว นายดำ (ผู้กู้)ต้องใช้เงินคืนให้แก่นายทองแดง ดอกเบี้ย ในการกู้ยืมเงินกันนี้ เพื่อป้องกันมิให้นายทุนบีบบังคับคนจนกฎหมายจึงได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยขั้นสูงสุดที่ผู้ให้กู้สามารถเรียกได้ว่าต้องไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี คือร้อยละ 1.25 ต่อเดือน (เว้นแต่เป็นการกู้ยืมเงินจากบริษัทเงินทุนหรือธนาคารซึ่งสามารถเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราดังกล่าวได้ตาม พ.ร.บ.ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน)ถ้าดอกเบี้ยเกินอัตราดังกล่าวถือว่าข้อตกลงเรื่องดอกเบี้ยนั้นเป็นอันเสียไปทั้งหมดคือไม่ต้องการใช้ดอกเบี้ยกันเลยและผู้ให้กู้อาจมีความผิดทางอาญาฐานเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราด้วยคือ อาจต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ. ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2495 หลักฐานการยืม ในการตกลงทำสัญญากู้ยืมเงินนั้น ถ้าหากว่ากู้ยืมกันเป็นจำนวนเงินเล็กน้อยไม่เกิน 50 บาท กฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องทำหลักฐานเป็นหนังสือแสดงถึงการกู้ยืมหรือทำสัญญาไว้ต่อกัน เช่น ยืมเงิน 20 บาท หรือ 30 บาทแล้วแต่พูดจาตกลงกันก็พอ แต่ถ้าหากว่ากู้ยืมเป็นจำนวนเกินกว่า 50 บาทต้องทำหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือสัญญากู้ไว้ต่อกันเพื่อจะได้ใช้หลักฐานในการฟ้องร้องบังคับคดีในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญาในหลักฐานแห่งการกู้เป็นหนังสือดังกล่าวนี้ต้องมีข้อความแสดงว่าได้กู้ยืมเงินเป็นจำนวนเท่าใดมีกำหนดใช้คืนเมื่อใด และที่สำคัญจะต้องมีการลงลายมือชื่อผู้กู้ ตัวอย่างหลักฐานการกู้ยืมเงิน ข้าพเจ้า นายดำได้กู้ยืมเงินจากนายสมศักดิ์เป็นจำนวน 3,000 บาท (สามพันบาท) เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2530 มีกำหนดใช้คืนภายใน 1 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ลงชื่อ ดำผู้กู้ หากว่าในขณะกู้ยืมเงินกันแต่มีการตกลงรับเอาสิ่งของแทนจำนวนเงินที่กู้ยืมกันนั้นต้องคิดราคาของตลาดของสิ่งนั้นเป็นจำนวนเงินที่กู้จริงนั้น เช่นมีการตกลงกู้ยืมเงินกัน 500 บาท แต่มีการตกลงให้รับข้าวสารแทน 2 กระสอบซึ่งในขณะนั้นข้าวสารกระสอบละ 150 บาท ดังนั้นเราถือว่ามีการกู้ยืมเงินกันจริงเพียง 300 บาทเท่านั้น อายุความ การฟ้องร้องเรียกเงินตามสัญญากู้จะต้องกระทำภายในกำหนดอายุความซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ว่าจะต้องฟ้องภายใน 10 ปี นับแต่วันที่ถึงกำหนดชำระคืน ตัวอย่างแดง กู้ยืมเงินดำเมื่อ 27 มิถุนายน 2530 จำนวน 10,000 บาท เป็นเวลา 1 ปีดังนั้นหนี้รายนี้ถึงกำหนดในวันที่ 27 มิถุนายน 2531 ผู้ให้กู้ต้องฟ้องเรียกเงินที่กู้ยืมคืน ภายใน 27 มิถุนายน 2541 ข้อควรระมัดระวังในการกู้ยืม (1) อย่าได้ลงลายมือชื่อในกระดาษเปล่าเป็นอันขาด (2) อย่าได้นำโฉนดไปให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้เป็นประกัน (3) จะต้องนับเงินให้ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา (4) ผู้ยืมต้องเขียนตัวเงินเป็นตัวหนังสือด้วย (5) สัญญาที่กู้ต้องทำอย่างน้อย 2 ฉบับ โดยให้กู้ยึดถือไว้ฉบับหนึ่งและให้ผู้ให้กู้ยึดถือไว้อีกฉบับหนึ่ง (6) ในสัญญากู้ควรมีพยานฝ่ายผู้กู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานอย่างน้อย 1 คน ข้อปฏิบัติในการชำระเงิน เมื่อผู้กู้นำเงินไปชำระไม่ว่าจะเป็นการชำระทั้งหมดหรือบางส่วนก็ตามผู้กู้ควรทำอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้มิฉะนั้นจะอ้างยันผู้ให้กู้ว่าชำระเงินกู้ให้เขาคืนแล้วไม่ได้ สิ่งที่ผู้กู้ควรกระทำเมื่อชำระเงินคือ (1) รับใบเสร็จรับเงินหรือหนังสือที่มีข้อความว่าได้ชำระเงินที่กู้มาแล้วทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนและมีลายเซ็นผู้ให้กู้กำกับไว้ด้วย ตัวอย่าง ข้าพเจ้า นายสมศักดิ์ ร่ำรวยทรัพย์ได้รับเงินคืนจาก นายดำ เกิดมาก ผู้กู้เป็นจำนวน 5,000 บาท ลงชื่อ สมศักดิ์ ร่ำรวยทรัพย์ ผู้ให้กู้ 27 มิถุนายน 2530 (2) รับหนังสือสัญญากู้เงินที่ได้ทำไว้แก่ผู้ให้กู้คืนมาในกรณีที่ชำระเงินครบตามจำนวนเงินที่กู้ (3) มีการบันทึกลงในสัญญากู้ว่าได้นำเงินมาชำระแล้วเท่าไรและให้ผู้ให้กู้ต้องเซ็นชื่อกำกับไว้ทุกครั้งที่